ยกเลิกระเบียบเงินเดือนเหลือ 30 เปอร์เซนต์
Posted: จ่าแก่ๆ Date: 2013-01-20 23:10:20
   
  ข้าราชการระดับประทวนเดือดร้อนอย่างมากในการกู้เงินแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่บอกว่าเงินเดือนจะต้องเหลือตัด 30 เปอร์เซนต์ ท่านรู้หรือไม่ว่าถ้าได้ไม่พอเขาก็ต้องดิ้นรนหากู้นอกระบบทำให้เป็นหนี้หลายทางครับ อยากให้พิจาณาดูครับนายระดับสูงท่านไม่เดือดร้อนหรอกครับเพราะว่าท่านไม่เคยเป็นจ่าครับ
 
 

   
 
 
ความคิดเห็นที่ 1  
โดย :สมัครต่อ  2013-01-22 12:52:39
 
 
  เห็นด้วยกับเจ้าของกะทู้ครับ
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 2  
โดย :เด็กตราด  2013-01-23 15:14:04
 
 
  เห็นด้วยครับ ให้เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์กำลังพอดีครับ
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 3  
โดย :เจ้าหน้าที่ สค.รน.  2013-01-24 14:18:33
 
 
  ขอชี้แจงดังนี้ครับ ทางสหกรณ์รับทราบถึงความเดือดร้อนและความต้องการกู้เงินของท่านสมาชิกทุกท่าน แต่ในการตัดเงินจากเงินเดือนของข้าราชการ สค.รน. และทุกสหกรณ์ใน ทร. ได้ถูกกำหนดกรอบในการตัดเงินเดือน ข้าราชการและลูกจ้าง ทร. เหมือนกันคือ ต้องให้เงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้าง ทร. นั้น เหลืออย่างน้อย 30% ทางสหกรณ์จึงทำได้เท่านี้ครับ
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 4  
โดย :จ่าหัวเมืองใต้  2013-01-31 15:02:28
 
 
  หัวข้อนี้ไม่เห็นด้วยนะ ไม่ทราบท่านจะกู้เงินไปทำไมเยอะ ๆ แยะ ครับ เป็นหนี้เปล่า ๆ เท่าที่ผมเห็นนะ ส่วนใหญ่ไม่ได้กู้ไปลงทุนทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง ไม่ชื้อรถ ก็ กินเหล้า มีแต่ทำร้ายตัวเอง หรือ บางคนเพื่ออวดชาวบ้าน ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดแบบนี้เท่าไร แต่ก็อย่างว่านะ มันเป็นสิทธิ์ของเขา ที่จะกู้ไปทำอะไร ขอแนะนำสักเล็กน้อยละกันนะครับ เรื่องความคิดของคนจน / คนชั้นกลาง / คนรวย คนจน - ได้เงินมาจะนำไปซื้อของสุรุ่ยสุร่าย ไม่ระวังการใช้จ่ายเงินก็มีแต่ออกไปเท่านั้น กู้มา หรือได้มาเท่าไรก็ไม่พอ เพราะไปออกไปในช่องรายจ่ายหมด คนชั้นกลาง - ได้เงินมาจะนำไปซื้อบ้าน ซื้อรถ (ซื้อหนี้สินนั้นเอง) ทำไมผมเรียกบ้านหรือรถยนต์ว่าหนี้สินเพราะสิ่งที่เราซื้อมามันทำให้เราต้องจ่ายเงินออกจากกระเป๋า เพราะเราต้องเซอร์วิท อยู่บ่อย ๆ เช่น ซ่อมแซมบ้าน ซ่อมแซมรถ สุดท้ายเงินก็หมด ดีไม่ดีต้องขายบ้าน/ขายรถ กลับกลายเป็นคนจนต่อ (เท่าที่เห็นข้าราชการบางคนนะ กู้มาซื้อรถยนต์ ) คนรวย - ได้เงินมาเขาซื้ออะไรครับ ก็ซื้อสิ่งที่เรียกว่าทรัยพ์สิน (ทรัยพ์สิน หมายความว่าสิ่งใดก็แล้วแต่ถ้าได้มาแล้วมีแต่ทำผลประโยชน์ หรือ ทำให้ได้เงินเข้ากระเป๋าเรานั้นเอง) เช่น บ้านเช่า ,ที่ดิน , สวน , หรือลงทุนทำธุรกิจที่ทำให้เพิ่มพูนเงินเข้ากระเป๋า สุดท้ายก็มีแต่รายรับที่มากกว่ารายจ่ายเลยทำให้ คนกลุ่มนี้รวยขึ้น ๆ ทุกวัน แล้วคุณละจะเป็นคนประเภทไหน ???
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 5  
โดย :ประสงค์  2013-02-01 22:14:17
 
 
  ผมว่า ทร.เป็นห่วงน้องๆนะ อยากให้เหลือเงินไว้ใช้ในครอบครัว บางคนมีลูกมีเมียต้องดูแล แต่หากจำเป็น เดือดร้อน และมีขีดความสามารถในการส่งเงินกู้ คณะกรรมการก้อพิจารณาเป็นรายๆไป ผมว่ายศคงไม่เกี่ยวหรอกผู้ใหญ่ก้อเป็นหนี้ได้ ผมก็มีหนี้แต่ต้องพยายามให้หนี้มันลดลงนะ
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 6  
โดย :จ่าวุธ 37  2013-02-15 22:27:11
 
 
  ตอบคุณ จ่าหัวเมืองใต้ ความคิดคุณดีมากนะ(ถ้าทำได้) แต่ผมอยากจะบอกว่าที่เราเป็นหนี้อยู่ทุกวันนี้เพราะความจำเป็นทั้ังนั้น(ส่วนมาก)และเป็นหนี้สะสมมานานเพราะครั้งแรกที่เรากู้มันได้น้อยมากเพราะเงินเดือนน้อย ผมทำงานมา 17 ปี เป็นหนี้สหกรณื 930000 ซึ่งเป็นหนี้ทุกปี ปีละ น้อย ๆ สะสมมาตลอดจนครบ 930000 ถ้ากู้ครั้งเดียวได้ 930000 ผมคงไปทำกำไรอย่างคุณมาได้หรอกนะ ดอกเบี้ยที่เสียไปก็มากกว่าเงินกู้ด้วยซ้ำไป อยากให้สหกรณ์ลดดอกเบี้ยลงบ้างก็ดีนะครับ จ่าวุธ 37 ครับ
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 7  
โดย :เด็กหีบ  2013-02-22 09:46:11
 
 
  อย่าเริ่มต้นชีวิตราชการด้วยการเป็นหนี้ เพราะคุณจะเป็นหนี้ไม่มีวันสิ้นสุด (ถ้าพื้นฐานครอบครัวไม่แน่น)
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 8  
โดย :เด็กหีบ  2013-02-22 09:53:28
 
 
  มีรุ่นพี่หลาย ๆ คน ประสบความสำเร็จในอาชีพรับราชการ ไม่มีหนี้สิน เพราะไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวเตร่ มีเมียคนเดียว ปั่นปลายก่อนเกษียณ อยู่อย่างมีความสุข มีทั้งรถ ทั้งบ้าน ครอบครัวอบอุ่น ผิดกับบางคนเมาทุกวัน อยู่บ้านหลวงเพลิน เกษียณแล้วไม่มีบ้านจะอยู่ น่าเศร้าจริง
 
 
   
 
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ทะเบียน:
รหัสผ่าน: